AREA แถลง ฉบับที่ 180/2560: วันพฤหัสบดีที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2560 
 
         แนวคิดศูนย์ราชการเป็นไปเพื่อการกระจายความเจริญและเสริมสร้างประสิทธิภาพของระบบราชการ  แต่การกลับกลายเป็นว่าทำให้เมืองขยายตัวออกไปอย่างไร้ทิศผิดทาง จนเมืองขาดประสิทธิภาพไปใหญ่  เรื่องนี้ต้องโทษนักผังเมือง 
         ถ้าเราไปเมืองนอกจะเห็นว่าส่วนราชการต่างๆ อยู่ในใจกลางเมืองเพื่อให้ผู้คนมาติดต่อราชการอย่างรวมศูนย์และมีประสิทธิภาพ เช่นที่กรุงลอนดอน กรุงปารีส  และเมืองหลวงอื่นที่มีอายุตั้งแต่ 500 ถึง 2,000 ปี แต่ในกรณีประเทศไทย เราสร้างศูนย์ราชการออกไปนอกเมืองทำให้เมืองขยายตัวอย่างขาดการวางแผน  อย่างนี้ไม่เป็นผลดีกับส่วนรวมแต่อย่างใด  เราคงไปเอาแนวคิดการผังเมืองในสหรัฐอเมริกาซึ่งปัจจุบันเป็นแนวคิดที่เขาทิ้งหมดแล้ว  เค้ากลับไปทำให้เมืองมีความหนาแน่นแต่ไม่แออัดเป็นมหานครประเภท Smart City เป็นต้น 
         ดูอย่างศูนย์ราชการที่แจ้งวัฒนะ ปรากฏว่า เป็นความผิดพลาดและล้มเหลวอย่างฉกรรจ์ 
         1. พอสร้างเสร็จกลายเป็นที่ตั้งของส่วนราชการใหม่ๆ 
         2. สร้างยังใหญ่โตแต่เตี้ยๆ สิ้นเปลืองทรัพยากรที่ดินเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เพราะผิดกฎระเบียบเรื่องการก่อสร้างใกล้เขตสนามบิน  อย่างไรก็ตามสนามบินหลายแห่งทั่วประเทศตั้งอยู่ใกล้ภูเขาสูงใหญ่มากกว่าดอนเมืองเสียอีกก็ยังไม่เคยมีอุบัติเหตุ 
         3. ขาดระบบขนส่งมวลชนภายในโครงการ คงหาคนเดินจากถนนแจ้งวัฒนะเข้าไปในศูนย์ราชการไม่ได้ต้องใช้รถเป็นหลัก ทำให้ต้องจัดหาที่จอดรถมหาศาล แต่ก็ยังแทบไม่เพียงพอ 
         4. ขาดระบบขนส่งมวลชนและคมนาคมเชื่อมระหว่างเครือข่ายรถไฟฟ้าและทางด่วน 

         จะเห็นได้ว่าส่วนราชการขนาดใหญ่แบบนี้กันใหม่ของตัวเองแยกออกไป เช่น 
         1. กระทรวงพาณิชย์ก็สร้างสำนักงานใหม่ของกระทรวง อยู่ที่สนามบินน้ำ จังหวัดนนทบุรี 
         2. กระทรวงสาธารณสุขก็มีสำนักงานขนาดใหญ่อยู่ที่ถนนติวานนท์ 
         3. กระทรวงกลาโหม โดยสำนักงานปลัด กองบัญชาการทหารสูงสุดก็ต่างออกนอกเมืองไปอยู่คนละที่ เป็นต้น 

         ทั้งในประเทศที่มีเมืองหลวงเก่าแก่ ปรับสามารถคุมสวนราชการกระทรวงต่าง ๆ อยู่ในใจกลางเมือง  แต่กรุงเทพมหานครกลับทำไม่ได้  เรื่องนี้ผังเมืองชั้นครูควรให้ความรู้กับผู้มีอำนาจให้เข้าใจความเป็นจริง  กระแสย้ายศูนย์ราชการออกนอกเมืองเกิดขึ้นเพราะ 
         1. แนวคิดผิดๆ เรื่องการอนุรักษ์ใจกลางเมือง โดยห้ามการก่อสร้างตึกสูงในเขตใจกลางเมืองทำให้ส่วนราชการต่าง ๆ ต้องย้ายออกไป  ในบางพื้นที่ เช่นรอบวังหลวงก็ควรอนุรักษ์แต่ไม่ใช่ทั้งเกาะรัตนโกสินทร์  ดูอย่างใจกลางกรุงลอนดอน กรุงโตเกียว ฯลฯ ก็ยังมีตึกสูงใหญ่มากมาย 
         2. การขาดระบบขนส่งมวลชนในย่านใจกลางเมือง ทำให้คนเดินทางเข้าเมืองยากลำบากจึงเกิดแนวคิดที่จะย้ายส่วนราชการออกนอกเมือง  แต่โดยที่ต่างคนต่างไปก็เลยกลายเป็นการเติบโตแบบไร้ทิศทางในที่สุด  แต่เดิมเรามีโครงการรถไฟฟ้าลาวาลินผ่านใจกลางเมืองออกสู่นอกเมืองอย่างเป็นระบบ แต่กลับถูกยกเลิกไปสร้างเป็นรถไฟฟ้าบีทีเอสทำให้พื้นที่เปลี่ยนแปลงไป 
         3. ความต้องการความอลังการของการออกแบบศูนย์ราชการ  โดยการใช้สอยที่ดินและการใช้สอยพื้นที่อาคารค่อนข้างหลวมๆ  ถือเป็นความสิ้นเปลืองเป็นอย่างยิ่ง  แม้แต่ธนาคารอันดับต้นต้นของประเทศยังก่อสร้างอาคารที่ใช้พื้นที่อย่างประหยัดและมีประโยชน์สูงสุด  อันที่จริงแม้แต่ธนาคารที่สร้างสำนักงานขนาดใหญ่ ยังควรได้รับการวิพากย์เพราะเอาเงินของผู้ถือหุ้นมาใช้เกินความจำเป็นแตกต่างจากธนาคารใหญ่ๆ ในต่างประเทศ  แต่ส่วนราชการไทยกลับยิ่งสร้างอาคารชุดอลังการตามแนวคิดแบบ "เจ้าขุนมุลนาย" นับเป็นการสูญเสียทรัพยากรของชาติเป็นอย่างมาก 
         อันที่จริงเราควรย้ายศูนย์ราชการที่เกิดจากใจเข้ามาอยู่ในใจกลางเมืองอีกครั้งหนึ่งแล้วสร้างระบบขนส่งมวลชนให้เพียงพอรวมทั้งศูนย์กลางรถไฟ ศูนย์รถประจำทางในเมืองและศูนย์รถไฟฟ้าในเมือง เป็นต้น 
         ช่วยกันคิดเพื่อไม่ให้นักผังเมืองทำเมืองให้พังไปกว่านี้ 

         ดาวน์โหลดฟรี หนังสือวิพากษ์ผังเมือง  http://bit.ly/1qkzqmT 

        ดาวน์โหลดฟรี หนังสือการบริหารกรุงเทพมหานคร  http://bit.ly/233hICp 
 
ผู้แถลง: 
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.thwww.facebook.com/dr.sopon4) ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน