เจ้าตลาดบ้าน 20 ล้านขึ้นไป
วันศุกร์ที่ 05 กรกฎาคม 2562

            ในท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมืองนี้ หลายท่านอาจเกรงว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะหดตัวรุนแรง แต่ในความเป็นจริง ไม่ได้หดตัวรุนแรงเช่นนั้น แต่คาดว่าจะหดตัวลงประมาณ 15%

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) เปิดเผยว่าตลาดที่อยู่อาศัยที่มีราคาตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไปนั้น เป็นตลาดระดับหรูเลิศ ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง แม้จะมีจำนวนน้อย แต่ก็มีมูลค่ามหาศาล โดย ณ สิ้นปี 2561 มีทั้งหมด 4,053 หน่วยที่เหลือเข้ามาขายในปี 2562  แต่มีมูลค่าสูงถึง 146,683 ล้านบาท หรือเท่ากับหน่วยละ 36.191 ล้านบาท

            ในปี 2562 มีหน่วยเหลือขายเข้ามาจากปี 2561 ถึง 199,768 หน่วย แสดงว่าเป็นหน่วยที่มีราคาเกิน 20 ล้านอยู่เพียง 2% เท่านั้น  ในอีกแง่หนึ่งมูลค่าของที่อยู่อาศัยที่เหลือเข้ามาขายในปี 2562 โดยรวม สูงถึง 814,331 ล้านบาท  การนี้แสดงว่า สินค้าที่อยู่อาศัยราคาเกิน 20 ล้านบาท มีสัดส่วนถึง 18% หรือราวหนึ่งในห้าของทั้งตลาดเลยทีเดียว  ตลาดที่อยู่อาศัยราคาแพงระดับหรูจึงพึงจับตามองเป็นพิเศษ

 

            ที่อยู่อาศัยกลุ่มนี้ที่ขายเหลืออยู่มากที่สุดจนเข้ามาขายต่อในปี 2562 คือ ห้องชุด มีเหลือเข้ามาจำนวน 2,125 หน่วย โดยขายไปแล้ว 4,3096 ล้านบาท เหลืออยู่อีก 72,845 ล้านบาท ทั้งนี้ห้องชุดที่ขายไปแล้ว ณ สิ้นปี 2561 มีราคาเฉลี่ย 36.154 ล้านบาท ในขณะที่ห้องชุดโดยรวมมีราคาเฉลี่ย 34,954 ล้าน  รองลงมาคือบ้านเดี่ยว เหลือขายอยู่ 1,824 หน่วย ส่วนสินค้าอื่นมีเป็นส่วนน้อย ไม่ว่าจะเป็นโฮมออฟฟิศ บ้านแฝด อาคารพาณิชย์ ทาวน์เฮาส์ และที่ดินจัดสรร

 

 

            ในปี 2561 ที่อยู่อาศัยที่มีราคาเกิน 20 ล้านบาทเปิดตัวถึง 2,213 หน่วย หรือเท่ากับ 1.8% ของจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ทั้งหมด แต่มีมูลค่า 73,940 ล้านบาท หรือ 14% ของมูลค่าการเปิดตัวทั้งหมด โดยมีโครงการอาคารชุด เปิดห้องชุดราคาเกิน 20 ล้านบาทถึง 1,603 หน่วย ขายได้แล้ว 676 หน่วย เหลืออยู่ 927 หน่วยรองลงมาคือ บ้านเดี่ยว 601 หน่วย ขายได้แล้ว 189 หน่วย เหลืออยู่ 557 หน่วย   นอกนั้นยังมีบ้านแฝดอีกจำนวนหนึ่งเท่านั้น  อาจกล่าวได้ว่าการเปิดตัวลดน้อยลงในปี 2561  สำหรับในไตรมาสที่ 1/2562 มีโครงการราคาแพงเกิน 20 ล้านบาทอยู่เพียง 18 หน่วย  รวมมูลค่า 1,352 ล้านบาท หรือราคาหน่วยละ 75 ล้านบาท

 

 

            จากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลฯ ในรอบปีที่ผ่านมา มีบริษัทที่สร้างบ้านขายเกิน 20 ล้านบาทอยู่ประมาณ 30 บริษัท ทั้งนี้อันดับหนึ่ง บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ สามารถขายบ้านราคาเกิน 20 ล้านบาทขึ้นไป 124 หน่วย  ส่วนอันดับสองคือ บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น สามารถขายได้ 107 หน่วย  อันดับสามคือ บมจ.แสนสิริ ได้ 51 หน่วย  หากพิจารณาในด้านของมูลค่าการขาย ปรากฏว่า บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ยังเป็นอันดับหนึ่งที่ 4,021 ล้านบาทในปี 2561  อันดับที่สองคือ บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น ขายได้ 3,554 ล้านบาท อันดับสามคือ บมจ.แสนสิริ ขายได้ 3,291 ล้านบาท  อย่างไรก็ตามในรอบปีก่อนๆ บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น ครองอันดับหนึ่งมาอย่างต่อเนื่อง ในปี 2561 ก็ยังขายได้มาก แต่ บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ กลับมาเป็นที่หนึ่งแทน

 

 

            ยิ่งกว่านั้นหากพิจารณาเฉพาะกลุ่มบ้านราคา 20 ล้านบาทที่เปิดตัวในปี 2561 และสามารถขายได้ในปี 2561 พบว่า มีอยู่ 12 บริษัท ซึ่งเป็นทั้งบริษัทมหาชน และบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์  ปรากฏว่าในจำนวนที่ขายได้ทั้งหมดนั้น บมจ.กรุงเทพบ้านและที่ดิน ขายได้สูงสุด 43 หน่วย จากทั้งหมดที่ขายได้ 189 หน่วย  ส่วนมูลค่าการขายที่สูงสุดคือ บมจ.แสนสิริ ขายได้ 1,411 ล้านบาท จากที่ขายได้ทั้งหมด 8,124 ล้านบาทสำหรับสินคาบ้าน-ห้องชุดที่มีราคา 20 ล้านบาทขึ้นไปและเปิดตัวในปี 2561

            อาจกล่าวได้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยระดับหรูเลิศนี้ยังมีขนาดที่ใหญ่มากพอสมควร และเป็นตลาดที่ไม่ต้อง "จับปูใส่กระด้ง" มีผู้ซื้อที่แน่นอน และมีคู่แข่งจำนวนไม่มากนัก  อย่างไรก็ตามแบรนด์ดังๆ จะมีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าบริษัทใหม่อยู่เช่นกัน

ที่มา :  https://bit.ly/2XORolN.

ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน